เทศกาลวันคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่นได้มีการเผยแพร่โดย มิชชันนารีชาวคริสเตียน และหลายปีมีผู้คนเพียงส่วนหนึ่งที่ได้เฉลิมฉลองด้วยความศรัทธา แต่ในขณะนี้วันคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่นเต็มไปด้วยความหมายมากมาย แต่บางครอบครัวพ่อแม่จะปลอมตัวเป็นซานตาคลอสแล้วนำของขวัญมาให้ลูกๆ แต่เด็กๆ จะดีใจและมีเชื่อว่าเป็นซานตาตลอสที่นำของขวัญมาให้ อีกทั้งชาวญี่ปุ่นมีความนิยมอย่างมากเกี่ยวกับการแลกของขวัญ ในช่วงสองสามสัปดาห์ก่อนถึงวันคริสต์มาส ร้านค้าต่างๆ จะจัดแสดงหน้าร้านอย่างสวยงามเพื่อเป็นสิ่งดึงดูดลูกค้าให้เรามาในร้าน
ญี่ปุ่นได้รับเอาวัฒนธรรมในวันคริสต์มาสจากชาวยุโรปเกี่ยวกับการแลกของขวัญ การรับประทานไก่งวง และการตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาสตามสถานที่ต่างๆ จะตกแต่งไปด้วยสิ่งที่ประดับแวววาว และประดับด้วยพืชไม้ดอกสีเหลืองจำพวก Viscum ที่มีผลเล็กๆ สีขาว และบางบ้านจะร้องเพลงสรรเสริญสำหรับการบังเกิดของพระเยซูตามประวัติความเชื่อของชาวยุโรป ถึงการกำเนิดพระเยซูในรางหญ้าในคืนวันที่มีดวงดาวเต็มท้องฟ้า เด็กนักเรียนชาวญี่ปุ่นจะจัดวางโปรมแกรมในชั่วโมงสุดท้าย พวกเขาจะท่องจำบทละครเพื่อแสดงละครเกี่ยวกับพระเจ้าที่เกิดในเมือง Bethlehem
![]() |
เทศกาลคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นความนิยมในการเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 และการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในเมือง การตกแต่งในวันคริสต์มาสจะประดับประดาไปด้วยไฟ และสิ่งที่มีความแวววาวภายในห้องโถง ร้านกาแฟ และห้องรับแขก ต้นไม้ต่างๆ ได้ถูกตกแต่งด้วยของเล่นชิ้นเล็กๆ ตุ๊กตา ตุ๊กตากระดาษ พัดลมจากกระดาษสีทอง โคมไฟ กระดิ่ง และเทียนเล็กๆ และการพับกระดาษเป็นรูปต่างๆ อย่างสวยงามเป็นสิ่งหนึ่งที่นิยมกันอย่างมากในการใช้เป็นสิ่งประดับตกแต่ง
เด็กญี่ปุ่นเรียกซานต้าว่า "Santa Kurosu" และเขามีความเชื่อว่าเขามีตาอยู่ทางด้านหลังศีรษะ ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นเด็กๆ ตลอดทั้งปี ในประเทศญี่ปุ่นมีพระที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "Hoteiosho" ผู้ซึ่งเหมือนกับซานตาคลอส เป็นผู้ชายแก่ผู้แบกถุงของขวัญอันใหญ่เพื่อแจกของขวัญแก่เด็กๆ ทุกคน
ในช่วงวันหยุดปีใหม่ชาวญี่ปุ่นจะมีวันหยุดใกล้เคียงกับชาวอเมริกัน และชาวยุโรปซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาของการรวมตัวกันของสมาชิกภายในครอบครัวและเพื่อนฝูง ดังนั้นวันคริสต์มาสดูเหมือนจะคล้ายกับวันวาเลนไทน์
เทศกาลคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่น
เทศกาลวันคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่นมีความแตกต่างจากการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสในประเทศต่างๆ ซึ่งชาวญี่ปุ่นนั้นนับถือศาสนาที่หลากหลายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น พุทธศาสนิกชน นิกายชินโต คริสเตียน และศาสนาอื่นๆ แต่จำนวนของชาวคริสต์ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีเพียงไม่ถึง 1% ของประชากรทั้งประเทศ
กินอะไรดีในวันคริสต์มาส
วันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคริสต์มาสไม่ได้เป็นวันหยุดประจำชาติในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าวันที่ 23 ธันวาคม เป็นวันเกิดขององค์จักรพรรดิก็ตาม แต่โดยแท้ที่จริงแล้ววันคริสต์มาสจัดเป็นช่วงกอบโกยของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะร้านขายขนมเค้ก เพราะชาวญี่ปุ่นจะเฉลิมฉลองคืนวันคริสต์มาสอีฟโดยการรับประทานเค้กคริสต์มาส ซึ่งหัวหน้าครอบครัวจะซื้อเค้กหลังจากกลับจากที่ทำงาน ที่ร้านขายขนมเค้ก
ขนมเค้กเป็นสินค้าที่ขายดีเป็นอันดับที่ 1 โดยเฉพาะในวันที่ 25 ธันวาคม ผู้คนมากมายจะสั่งเค้กจนถึงวันที่ 26 ขนมเค้กยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งสำหรับการแสดงออกของหญิงสาวต่อชายคนรัก มีการคำพูดล้อเล่นสำหรับผู้หญิงโสดที่มีอายุมากกว่า 25 ปีว่า "เค้กคริสต์มาสจะขายไม่ออก" เพราะว่าอายุมากขึ้นมากขึ้นนั่นเอง ส่วนผู้ที่จัดงานวันเกิด และงานวันแต่งงานในช่วงวันเกิดวันที่ 25 และจะได้รับส่วนลดอย่างมากในการสั่งขนมเค้กในวันนี้อีกด้วย ชาวญี่ปุ่นจะกล่าวคำว่า "Merry Christmas" เป็นเสียงภาษาญี่ปุ่นว่า "เมะ - ริ - คุ - ริ - สุ - มะ - สุ" (me-ri-ku-ri-su-ma-su)
ในปีปัจจุบันธุรกิจการขายไก่ย่างที่ร้าน Kentucky กลายเป็นความนิยมในการรับประทานมื้อเย็น ชาวญี่ปุ่นมากมายจอง "ไก่ย่างคริสต์มาส" คนมากมายเข้าคิวเพื่อจะสั่งไก่ย่าง ในขณะที่ไก่ทอด KFC มีการออกแคมเปญใหญ่เพื่อที่จะโฆษณาต่อผู้บริโภค ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีความเชื่อเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองคริสต์มาสคล้ายกับชาวยุโรปในการรับประทานอาหารเย็นด้วยไก่ย่าง หรือไก่ทอดแทนที่จะเป็นการรับประทานอาหารเย็นด้วยแฮม หรือไก่งวง การโฆษณาทางสื่อต่างๆ เกี่ยวกับวันคริสต์มาสอีฟทางทีวี เป็นคืนที่อัศจรรย์และโรแมนติก มันเป็นช่วงเวลาที่คู่รักจะอยู่ด้วยกันอย่างโรแมนติก ภัตตาคาร และโรงแรมหลายแห่งจะถูกจองในคืนนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงจะเปิดเผยความรักต่อชายคนรักด้วยคำพูดที่หวานหู
คนญี่ปุ่นทำอะไรในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
สำหรับคู่รักที่ไม่ใช่วัยรุ่น ซึ่งอาจจะเป็นวัยทำงานก็จะพากันไปทานดินเนอร์สุดหรูตามโรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งมีการโฆษณาโดยนักร้อง ดารานักแสดงชื่อดัง หรือแม้แต่การควงกันไปชมคอนเสิร์ตต่างๆ โอเปร่า การแสดงเปียโน ดังนั้นตั๋วการแสดงต่างๆ จะถูกจองอย่างมากในช่วงระยะเวลาของเทศกาล ฤดูกาลวันคริสต์ช่วงเดือนสุดท้ายของปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองในกลุ่มพนักงานบริษัท กลุ่มผู้ทำงานอดิเรก กลุ่มนักกีฬา และอื่นๆ จะจองภัตตาคารสำหรับการจัดงานฉลองที่เป็นที่รู้จักกันในคำว่า "bonenkai" (วันส่งท้ายปีเก่า) เป็นช่วงปรากฎการณ์ที่มีรถมากมายบนท้องถนน รถไฟใต้ดิน และรถไฟจะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายระหว่างเทศกาลคริสต์มาส แสงไฟ และการจัดแสดงของร้านค้าต่างๆ นิยมตกแต่งด้วยตุ๊กตาหมี Teddy จากการสอบถามเพื่อนๆ คนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็พอจะจำแนกกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นมักจะทำกันในช่วงคริสต์มาส และปีใหม่ดังนี้
1. จัดงานปาร์ตี้ที่บ้าน
2. ทานอาหารนอกบ้าน ตามร้านอาหารชื่อดัง
3. ไปงานปาร์ตี้บ้านเพื่อนๆ
4. ดูทีวีที่มีรายการพิเศษต่างๆ ในช่วงปีใหม่
5. ออกไปดูการตกแต่งไฟตามแหล่งช็อปปิ้งต่างๆ
6. ไปร่วมงานฉลองตามสถานที่ต่างๆ ที่จัดขึ้นมา เช่น ตามหน้าห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
7. ไปเที่ยวตามสวนสาธารณะ
8. ไปดูคอนเสิร์ต
9. ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างอากาศ หรือต่างประเทศ เป็นต้น
10. ไปโบสถ์ในวันคริสต์มาส และไปวัดในวันปีใหม่
ของขวัญวันปีใหม่และคริสต์มาส
ในช่วงวันสิ้นปีมีการให้ของขวัญให้กันระหว่างพนักงานบริษัทให้กับเจ้านาย ครู ครอบครัว และเพื่อน ซึ่งจะเรียกว่า "Oseibo" ซึ่งจะต้องมอบของขวัญตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป แต่ว่า Oseibo นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเทศกาลคริสต์มาสของฝรั่ง
สนนราคาที่จะจ่ายเพื่อซื้อของขวัญนั้นก็มีตั้งแต่ 3,000 เยน ไปจนถึง 10,000 เยน ซึ่งของที่นิยมให้กันเป็น Oseibo มีคือ หมูแฮม, น้ำมันทำอาหาร, บัตรกำนัล, เบียร์, อาหารกระป๋อง, กาแฟ, เครื่องปรุงอาหารต่างๆ , สาหร่าย, อาหารทะเล, ผลไม้ ฯลฯ ส่วนจะเลือกของอะไร มูลค่าเท่าไหร่ก็แล้วแต่ความสัมพันธ์ของแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่คนที่จะได้รับของขวัญราคาแพงก็คือ หัวหน้างานในบริษัทนั่นเอง
ตลอดทั้งเดือนธันวาคม บรรดาห้างสรรพสินค้า และร้านรวงต่างๆ ต่างแข่งกันจัดหน้าร้านของตัวเองให้อลังการ เต็มไปด้วยแสงไฟ และสัญลักษณ์ต่างๆ ของการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะมีการโชว์ oseibo เป็นชุดๆ ไว้รอรับลูกค้า ร้านค้าหลายๆ ร้านก็ยังมีบริการการส่งของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ให้ถึงบ้านอีกด้วย
การใช้ Noshi
ในการส่งมอบ oseibo ผู้ให้จำเป็นต้องแนบ noshi ซึ่งก็คล้ายๆ กับการแนบการ์ดอวยพรไปกับของขวัญ แต่ว่า noshi นั้นทำมาจากกระดาษญี่ปุ่นแผ่นบาง เอาไว้ห่อทับด้านบนของกล่องของขวัญ หรือใช้ทำเป็นซองใส่เงินก็จะเรียกว่า Noshi Bukuro
Noshi Bukuro
หน้าที่เข้าชม | 2,586,029 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,020,000 ครั้ง |
เปิดร้าน | 23 ม.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ส.ค. 2568 |