Gothic Lolita
โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) หรือ Goth Loli (ゴスロリ) หรือเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า gosurori (โกสึโรริ) บางครั้งก็เรียกว่า Loli-Goth มีคำจำกัดความ 2 แบบคือ
แบบที่ 1 ในความหมายของคนญี่ปุ่น ที่อธิบายถึงสังคมเล็กๆ สังคมหนึ่งของวัยรุ่นที่ชื่นชอบการแต่งตัวแนวโกธิคโลลิต้า
แบบที่ 2ในความหมายภาษาอังกฤษคือ เป็นกลุ่มเฉพาะกลุ่มหนึ่งในแฟชั่นแนวโลลิต้า
ความเป็นมาของคำว่า Gothic Lolita
แรกเริ่มเดิมที คำว่า Gothic Lolitaได้ใช้อธิบายกลุ่มแฟชั่นเล็กๆ กลุ่มหนึ่งในแนวโลลิต้าซึ่งมีโทนสีดำทั้งหมด หรือส่วนใหญ่เป็นสีดำและตัดด้วยสีขาว อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกลุ่มย่อยๆ อีกมากมายในแนวแฟชั่นแบบโลลิต้า (Lolita) รวมถึง โลลิต้าสีขาว (White Lolita หรือ Shirorori) โลลิต้าสีดำ (Black Lolita หรือ Kurorori) โลลิต้าสีเลือด (Gory/Grotesque Lolita หรือ Gurorori) และ พั้งค์โลลิต้า (Punk Lolita) การแต่งกายด้วยชุดโลลิต้าสีขาว (Shirorori) และชุดโลลิต้าสีดำ (Kurorori) แปลว่า แต่งกายด้วยชุดสีขาวล้วน และชุดสีดำล้วน ตามลำดับ ส่วนโลลิต้าสีเลือด (Gurorori) จะถูกนิยามด้วยผ้าพันแผลหรือสัญลักษณ์ของการโดนทำร้าย สุดท้ายคือพั้งค์โลลิต้า (Punk Lolita) นั่นคือ การใส่ความเป็นพั้งค์เข้าไปในชุดแนวโลลิต้า มีแฟชั่นหลายแบบที่คล้ายคลึงกับแนวโกธิคโลลิต้า แต่ไม่ถูกพิจารณาในหมู่ชาวโกธิคโลลิต้าว่าเป็นของแท้ในแบบฉบับของโลลิต้า
Elegant Gothic Lolita (EGL) เป็นกลุ่มคำหนึ่งที่ Mana นักกีต้าร์และผู้สร้างแบรนด์ Moi-même-Moitié เป็นผู้สร้างไว้ EGL นี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งของโกธิคโลลิต้าที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น ผู้สวมใส่ชุดแนวนี้มักเป็นผู้หญิงวัยรุ่นตอนปลายจนถึงผู้ใหญ่ตอนต้น ส่วนผู้ชายจะเรียกว่า Elegant Gothic Aristocrat (EGA) ซึ่งชุดจะมีความพิถีพิถัน และมีสีขาวดำเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม คำว่า Gothloli (Gosurori) ยังคงหมายถึงผู้ที่แต่งกายแบบโกธิคหรือโลลิต้าก็ได้
Gothic Lolita ก็คือชุดกระโปรง (dress) ที่เป็นมากกว่าแบบธรรมดาๆ ทั่วไป และยังสื่อถึงกิริยา รวมถึง ทัศนคติที่เป็นแบบแผนยากแก่การเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ในงานเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของแฟชั่นโลลิต้านั้น ได้เน้นย้ำด้วยว่าจะต้องทำตัวอย่างไรและวิธีการเมคอัพอย่างถูกต้องเหมาะสม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีผู้ชื่นชอบโลลิต้า พวกเขาอาจจะได้อ่านเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ของมัน แต่อาจจะไม่ทำตามจริงเลยก็ได้
สไตล์ของโลลิต้า
แฟชั่นโลลิต้าได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นยุคร็อคโคโค่ (Rococo) วิคตอเรีย (Victoria) และเอ็ดเวิร์ด (Edward) และจะเห็นการมุ่งมั่นที่จะเลียนแบบเด็กๆ ในยุควิคตอเรีย หรือตุ๊กตาพอร์ซเลน โกธิคโลลิต้า เป็นการผสมผสานเอาสุนทรียศาสตร์ของแฟชั่นแนวโกธิคและความน่ารักน่าเอ็นดูแบบเด็กๆ ของแฟชั่นแนวโลลิต้าเข้าไว้ด้วยกัน จึงเป็นที่มาของคำว่า Gothloli (Gothic + Lolita)
โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เป็นที่รู้จักดีที่สุดในบรรดา โลลิต้า ทั้งหมดส่วนประเภทอื่นๆ เช่น คลาสสิกโลลิต้า (Classic Lolita) จะมีสไตล์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า สีสันจะนุ่มนวลมากกว่า และมีลายดอกไม้
ส่วนสวีทโลลิต้า (Sweet Lolita) จะมีสีพาสเทลอันบ่งบอกความเป็นเด็กและมีลวดลายน่ารักๆ
โดยปกติแล้ว โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) จะประกอบด้วยสีขาวและดำบ่อยครั้งจะเห็นว่าเป็นสีดำ มีลูกไม้สีขาว ตกแต่งด้วยริบบิ้นและแต่งด้วยลูกไม้กระโปรงมีความยาวในระดับเข่า และอาจจะมีผ้าซับในแข็งๆ ด้านใน(Crinoline) หรือไม่ก็เป็นกระโปรงชั้นใน (Petticoat) ที่ช่วยทำให้กระโปรงพองออก อย่างแฟชั่นญี่ปุ่นถุงเท้าหรือถุงน่องแบบเหนือเข่า (Over-knee socks/stockings) เป็นที่นิยม เสื้อรัดรูปสีขาวหรือดำนั้นเป็นอะไรที่ธรรมดาสำหรับพวกเขา รองเท้าบู๊ท รองเท้า rockinghorse หรือรองเท้าที่มีสไตล์แบบเด็กๆ อย่างเช่นยี่ห้อ แมรี่เจน (Mary Janes) ช่วยทำให้การแต่งกายดูสมบูรณ์แบบขึ้น Victorian Blouse ที่มีขอบลูกไม้ มีจีบย่นก็เป็นที่นิยมในหมู่โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เช่นกัน โดยปกติแล้วจะมีการดีไซน์แบบที่ดูสุภาพเรียบร้อยบางครั้งจะเป็นแบบแขนยาวที่ตกแต่งด้วยลูกไม้ หรือเป็นแบบที่มีปกคอสูง
Props อื่นๆ ก็อย่างเช่น หมวกใบเล็กๆ (Top hats) ร่มกันแดด (Parasols) เฮดเดรส (Headdress) ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม props อื่นๆ ที่ประดับศีรษะอย่างอื่นที่เป็นที่นิยมก็ได้แก่ ริบบิ้น ลูกไม้ หูกระต่าย Alice band ที่มีหูกระต่าย หรือหมวกผู้หญิงที่มีริบบิ้นผูกใต้คาง (bonnet) ทรงผมเป็นลอนหรือไม่ก็สวมวิกแบบลอน เพื่อให้ดูเป็นลุคแบบตุ๊กตาพอร์ซเลน สีบลอนด์และดำเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อย่างไรก็ตามแฟชั่นก็ยังเดินหน้าพัฒนาต่อไปสีอื่นๆ อย่างเช่น น้ำตาล และแดง ก็ยังคงเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
เครื่องแต่งกายของโลลิต้า (Lolita) อาจมีเพิ่มเติมอีกเช่น กระเป๋าถือ เป้ใบเล็กๆ กระเป๋าสตางค์ บางครั้งมีรูปทรงเป็นค้างคาว โลงศพไม้กางเขน ที่เห็นชัดก็คือ พ็อกเก็ตบุ๊ค นาฬิกาข้อมือ กล่องใส่หมวก หีบหนังใบเล็กๆหมีเท็ดดี้แบร์ และตุ๊กตานิ่มๆ รูปสัตว์ก็เช่นกันและยังมีบางแบรนด์ได้ทำเท็ดดี้แบร์โกธิค ที่ทำจาหนังหรือพลาสติกสีดำออกมาวางขายผู้แต่งกายแบบโลลิต้าบางคนก็ถือตุ๊กตาSuper Dollfies หรือตุ๊กตาอื่นๆในลักษณะคล้ายคลึงกันอีกด้วย
ความเป็นมา
สไตล์โลลิต้า (Lolita Style) เริ่มต้นในปี ค.ศ.1970 อันได้แก่ แบรนด์ Milk and Pink House ที่ได้ทำชุดลักษณะเดียวกับยี่ห้อ Anne of Green Gables ของแคนาดา (เป็นที่ชื่นชอบในประเทศญี่ปุ่นด้วย) และที่นิยมรองลงมาคือLittle House on the Prairie, Angelic Pretty ในปี 1979 Baby, The Stars Shine Bright ก่อตั้งในยุค 80 ส่วน Moi-même-Moitiéก่อตั้งในปี 1999
Mana, จาก Malice Mizer (ผู้ก่อตั้งร่วมกับ Kozi ซึ่งเป็นนักกีต้าร์) ผู้ที่ทำให้โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เป็นที่นิยมแม้ว่าเขาจะไม่ใช้ผู้คิดค้นแฟชั่นแนวนี้ก็ตาม เขาสร้างคำว่า EGL และ EGA ขึ้นมาเพื่ออธิบายสไตล์ในแนวแฟชั่นของเขาในนาม Moi-même-Moitiéซึ่งก่อตั้งในปี 1999 ส่วนนางแบบที่มีอิทธิพลต่อแฟชั่นโลลิต้า (Lolita) เป็นนักร้องที่ชื่อว่า Kana ซึ่งบ่อยครั้งเป็นแบบให้กับแมกกาซีนแฟชั่นที่เกี่ยวกับโลลิต้า (Lolita) และมิตสึคาซึ มิฮาระ (Mitsukazu Mihara) ผู้เป็นแบบให้ปกของ Gothic & Lolita Bible
วัฒนธรรมโกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita Culture)
ในประเทศญี่ปุ่น ตลาดโกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เป็นแบบ Mass Market แม้ว่าจะไม่ได้สวมใส่กันอย่างกว้างขวางแต่ก็สามารถเห็นได้ส่วนหนึ่งบนถนนย่านโตเกียวและโอซาก้า บนจอทีวี ในหนังสือการ์ตูน (เรื่อง พาราไดซ์คิส, Paradise Kiss) และเกมคอมพิวเตอร์ โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เป็นแฟชั่นที่ถูกแผ่ขยายไปทั่วโลกทั้งนี้ต้องขอขอบคุณสื่อต่างชาติของแมกกาซีนญี่ปุ่นที่ชื่อว่า FRUiTS ที่ซึ่งรวมสไตล์ที่โดดเด่นกับเทรนด์วัยทีนที่แปลกแตกต่างเข้าด้วยกันอย่างแท้จริงในญี่ปุ่นสาวกจำนวนมากได้นำอิทธิพลจากยุค Rococo และ Victoria ในประวัติศาสตร์ยุโรปเชื่อในความเป็นโลลิต้าอย่างเคารพนับถือ สุภาพ และเคร่งขรึมในทุกเวลา ยิ่งกว่านั้นสาวกโลลิต้าที่เคร่งครัดมากๆมักพยายามที่จะพัฒนาความสนใจลงไปที่งานอดิเรกหรือกิจกรรมที่เหมาะกับหญิงผู้สูงศักดิ์ในยุคสมัยนั้นด้วยอย่างเช่น งานเย็บปักถักร้อย โอเปร่า เพลงในสไตล์คลาสสิกและบารอค การเพ้นท์สีงานเย็บจักร และธรรมเนียมประเพณี High Tea (อาหารน้ำชามื้อดึกหรือเย็นที่มักประกอบด้วย เนื้อ สลัด ผลไม้ เค้ก และน้ำชา) อย่างไรก็ตาม สาวกโลลิต้าส่วนใหญ่ก็ดำเนินชีวิตคล้ายๆ กับคนปกติทั่วไป
โลลิต้านอกประเทศญี่ปุ่น
นอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว แฟชั่นโลลิต้ายังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตามมันก็เริ่มแผ่ขยายตัวไปยังประเทศต่างๆ อย่างช้าๆ โลลิต้า (Lolita) ตามที่ปรากฏในหมู่คอสเพลย์และปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นอื่นๆสามารถพบเห็นได้บ้างตามคอนเสิร์ตและงานอนิเมทั่วทุกหนทุกแห่ง ในประเทศแคนาดา อังกฤษออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามบุคคลที่ยึดถือแฟชั่นนี้อย่างแท้จริงได้ให้คำยืนยันว่า โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) ไม่ใช่เสื้อผ้าที่เป็นเดรสแฟนซี มากกว่านั้นมันคือ วิถีชีวิต โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เป็นสไตล์ที่ยังไม่ mass market เมื่ออยู่นอกประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะเล็กก็ตามร้านค้าที่ตั้งอยู่นอกประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มที่จะขยายตัว และร้านค้าก็ขายสไตล์ โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) ได้ก่อตั้งในช่วงต้นปี 2007 บนถนนอลิซาเบธ ใจกลางเมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย
แบรนด์หลักๆ ได้แก่ Metamorphose, Angelic Pretty, H.Naoto, Baby, The Stars Shine Bright ที่นานาชาติจดจำเมื่อพูดถึงแฟชั่นโลลิต้าและเริ่มต้นที่จะส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลกแต่ยังไม่กว้างขวางเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับเสื้อหลายๆแบรนด์ที่ผลิตโดยดีไซเนอร์ที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นเนื่องจากยังไม่เป็นที่ยอมรับในหมู่สาวกโลลิต้าเพราะสไตล์ที่นำเสนอออกมานั้นไม่ใช่ก็อธ (goth) ตามแบบฉบับของอังกฤษ หรือลุค maid ในแบบฉบับของฝรั่งเศสและยังไม่ได้มีคุณภาพสูงนักเมื่อเทียบกับเสื้อแบรนด์ของญี่ปุ่น แมกกาซีนโลลิต้าสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในอินเตอร์เน็ตและร้านหนังสือญี่ปุ่นเช่นเดียวกับการหาซื้ออนิเมและหนังสือการ์ตูนทั่วไป
ช็อปปิ้ง (Shopping)
ศูนย์กลางการซื้อขายเครื่องแต่งกายแนวโกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า มารุอิ ยัง (Marui Young) ย่านชินจูกุหลังจากที่ก่อนหน้านี้ห้างมารุอิ วัน (Marui One) ปิดตัวลงเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2004 ห้างนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งล้วนแต่มีโกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) และแฟชั่นที่เกี่ยวข้อง บูติคโกธิคโลลิต้า (Boutique Gothic Lolita) บางแห่ง สามารถพบได้บริเวณที่อยู่ระหว่างฮาราจูกุ (Harajuku) และชิบูย่า (Shibuya)
ก็อธ และ โลลิต้า (Goth & Lolita)
แฟชั่นโลลิต้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องมากนักกับสไตล์เพลงหรือความสนใจดังเช่นแนว Goth และบรรดาสาวกแฟชั่นโลลิต้า ก็อาจจะฟังเพลงในแนวที่หลากหลายกันออกไปตั้งแต่เพลงคลาสสิกไปจนถึงป๊อปและร็อค
ในประเทศญี่ปุ่น ก็อธ (Goth) เป็นสังคมเล็กๆสังคมหนึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเน้นย้ำบนเอกลักษณ์ในสังคมวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นที่ทำให้ปัจจัยอื่นๆอย่างเช่นเพลงและวรรณกรรมมีนัยสำคัญน้อยกว่า และบางทีอาจเป็นเพราะคริสเตียนเป็นศาสนาย่อยๆ ในญี่ปุ่นเท่านั้น ในประเทศญี่ปุ่น คนที่ได้ยินคำว่าก็อธ (Goth) นั้น โดยปกติแล้วจะคาดเดาว่าเป็นคำย่อมาจาก โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) ยกเว้นตัวของชาวก็อธ (Goth) ซึ่งย้ำอย่างหนักแน่นถึงความแตกต่างเช่นเดียวกับผู้สังเกตการณ์บางคนที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นที่คาดเดาว่า โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เป็นภาคญี่ปุ่นของคำว่าก็อธ (Goth) เป็นความใกล้เคียงในแง่ของแฟชั่นอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้ในโตเกียว Club Event ที่เป็นสาวก Goth ที่ใหญ่ที่สุด อย่างเช่น "Tokyo Dark Castle" จะดึงดูดกลุ่มลูกค้า โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) ที่น่าสนใจมาส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมาลูกค้ากลุ่มนี้ก็หดตัวลง และอีเวนต์เช่นนี้ ในปัจจุบันนั้น เบื้องต้นจะดึงดูดแฟนๆด้วยความเป็น goth ตามแบบฉบับดั้งเดิมมากขึ้น มีความเป็นอุตสาหกรรม และ metal music คอนเสิร์ตของวงที่มีแนว Visual Kei ได้รับความสนใจจากสาวกโลลิต้า (Lolita) ในทางกลับกัน Goth ก็มีเพียงเล็กน้อย
อนิเม และ มังงะ (Anime & Manga)
บ่อยครั้งที่จะพบว่า โลลิต้าในอนิเมและมังงะจะถูกจัดเข้าในกลุ่มคอสเพลย์ ไม่ใช่โลลิต้า (Lolita) อย่างแท้จริง
มังงะและอนิเมเรื่องดังๆ ที่มีแฟชั่นโกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) เป็นลักษณะเด่นๆ ก็ได้แก่ Paradise Kiss, Coyote Ragtime Show, Le Portrait de Petit Cossette, Le Chevalier d'Eon, Rozen Maiden, Godchild, Death Note, D. Gray Man, Othello, xxxHolic, Gothic Sports, Trinity Blood, Pitaten, Vampire Knight, Venus Versus Virusผลงานจำนวนมากเป็นของ คาโอริ ยูกิ (Kaori Yuki) และทุกผลงานเป็นของมิตสึคาซึ มิฮาระ (Mitsukazu Mihara)
อนิเมของปี 2006 ที่ชื่อว่า Yamato Nadeshiko Shichi Hengeหรือที่รู้จักกันในนาม The Wallflower ที่มีเนื้อเรื่องเป็นพี่น้องสี่สาวที่อยู่ในวัย High School เป็นคาแรคเตอร์หลักซึ่งถูกเรียกขานว่า 4 พี่น้อง Goth Loli (Lassine, Madeline, Roxanne, และ Yvone) เป็นแนว comedy ซะส่วนใหญ่และสี่สาวมักจะมีซีนทิ้งท้ายด้วยการร้องว่า "Goth! Goth! Loli! Loli!"
ในมังงะบางเรื่อง อย่างเช่น โอเทลโล่ (Othello) แฟชั่นโลลิต้า (Lolita) ได้ถูกวาดโดยวิธีการปรับให้เหมาะกับแต่ละตัวละครและลดความเขินอายลงโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ชื่นชอบมังงะประเภทนี้จะเป็นผู้ชายมากกว่าสาวกโลลิต้าเองซะอีกอย่างไรก็ตาม สาวกโลลิต้าส่วนมากจะพบเห็นได้ตามงานอีเวนต์มังงะอย่างเช่นงานคอมมิเกะ (Comiket) พวกเธอมักจะซื้อโดจินชิ (Doujinshi) ที่มีวงดนตรี หรือตุ๊กตาหรือคาแรคเตอร์หนังที่ชื่นชอบ บางคนก็สนใจการแต่งเดรสแบบต่างๆ กันรวมทั้งคอสเพลย์ด้วย อย่างไรก็ตาม สไตล์โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) ไม่ควรจัดเข้าไปในจำพวกคอสเพลย์แต่มันคือแฟชั่นทางเลือกต่างหาก
สาวกโลลิต้าส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สวมใส่สไตล์นี้ในชีวิตประจำวันได้กล่าวว่า "พวกเราไม่ได้คอสเพลย์แต่พวกเขาไม่ฟังเลย แน่ล่ะว่า เราไม่พอใจ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วล่ะ"คำวิจารณ์เกี่ยวกับสไตล์นี้ว่าเป็นคอสเพลย์ มาจากพวกโอตาคุ (Otaku) ซึ่งรู้จักแฟชั่นนี้ผ่านอนิเมและมังงะเท่านั้น
มินิซีรีย์การ์ตูนของค่ายมาร์เวล (Marvel) ที่ชื่อว่า Livewires มีตัวชูโรงที่เรียกว่าโกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) "Lol" จะแต่งแฟชั่นแนวนี้ในขณะปฏิบัติหน้าที่ในญี่ปุ่น หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมกล่าวว่าชอบไอเดียที่เป็น "Ben Grimm in black baby doll lace,"ของทีม Lol ได้แสดงแนวคิดอย่างง่ายๆ ในบทบาทของเธอว่าเป็น "หน้าที่อันยิ่งใหญ่และรุนแรง"
แปลโดย We Cosplay
อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Gothic_Lolita
หมายเหตุ หากผู้ใดต้องการบทความนี้ที่แปลโดย We Cosplay กรุณาให้เครดิตกับเราด้วยค่ะ
เรามารู้จักโกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) ให้มากขึ้นกันเถอะค่ะ โดย We Cosplay อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ en.wikipedia.org.
หน้าที่เข้าชม | 2,586,029 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,020,000 ครั้ง |
เปิดร้าน | 23 ม.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ส.ค. 2568 |